Google

Thursday, September 24, 2009

Patterns of Power : World Government

แบบแผนแห่งอำนาจ : รัฐบาลโลก

การรวมศูนย์การผูกขาดกำลังและอำนาจในการสร้างนโยบายเพื่อบังคับใช้กับรัฐและประชากรในรัฐต่าง ๆ ให้มารวมอยู่ในศูนย์กลางอำนาจเหนือชาติเพียงศูนย์เดียว การจะเป็นรัฐบาลโลกอย่างนี้ได้นั้น มีเงื่อนไขว่ารัฐต่าง ๆ จะต้องยอมสละอำนาจอธิปไตยที่ตนมีอยู่ให้แก่รัฐบาลโลก ในทางทฤษฎีนั้น เป็นไปได้ที่จะสร้างรัฐเหนือชาติเช่นว่านี้ ด้วยการใช้กำลังเข้าปราบปราม หรือโดยวิธีสหกรณ์ จักรวรรดิโรมันในสมัยโบราณเป็นตัวอย่างในทางประวัติศาสตร์ แสดงถึงความพยายามที่ประสบความสำเร็จในการสร้างรัฐบาลโลกด้วยการใช้กำลังทหารเข้าปราบปราม ต่อมาก็เคยมีความพยายามที่จะพิชิตโลกโดยจักรพรรดินโปเลียนแห่งฝรั่งเศส และอดอล์ฟ ฮิตเลอร์แห่งเยอรมนี แต่ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนกรณีของจักรวรรดิโรมันในอดีต สำหรับการสถาปนารัฐบาลโลกขึ้นมาโดยความร่วมมือระหว่างประเทศโดยสันตินั้น ยังไม่เคยมีใครพยายามทำมาก่อน

ความสำคัญ แบบแผนแห่งอำนาจในรูปของการสถาปนารัฐบาลโลกขึ้นมานี้ จะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องอำนาจระหว่างประเทศได้ คือจะไปกำจัดระบบรัฐที่ยึดหลักว่าแต่ละรัฐมีอำนาจอธิปไตยนี้ได้ แต่ในยุคปรมาณูอย่างเช่นทุกวันนี้ หากจะมีความพยายามใด ๆ ที่จะสร้างรัฐบาลโลกขึ้นมาโดยวิธีการใช้กำลังบังคับ ก็คงจะต้องมีการใช้อาวุธมหาประลัยนิวเคลียร์ประหัตประหารกันวินาศย่อยยับเป็นแน่ จึงต้องหาทางเลือกใหม่ คือ กระทำในรูปของสมาพันธ์โลก ซึ่งก็มีข้อแนะนำว่า ควรจะเปลี่ยนแปลงสหประชาชาติที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้แหละไปเป็นรัฐบาลโลกเสียเลย แต่ข้อเสนอแนะนี้บ่งบอกว่า คนเสนอแนะยังขาดความเข้าใจในลักษณะขององค์การสหประชาชาติ องค์การสหประชาชาติมีลักษณะเป็นสมาพันธ์ซึ่งมีการมอบอำนาจอย่างจำกัดให้แก่ศูนย์รวมอำนาจก็จริง แต่อำนาจอธิปไตยก็ยังคงอยู่กับรัฐสมาชิกแต่รัฐอยู่ต่อไป แต่ถ้าหากเป็นรูปสมาพันธ์แท้ ๆ นั้น อำนาจอธิปไตยจะต้องไปอยู่กับศูนย์รวมอำนาจแห่งเดียวเท่านั้น หน่วยย่อย ๆ แต่ละหน่วยจะตกอยู่ภายใต้การบงการของศูนย์รวมอำนาจหนึ่งเดียวนั้น แต่ด้วยเหตุที่รัฐต่าง ๆ ในชุมชนระหว่างประเทศยังไม่เห็นพ้องต้องกันเกี่ยวกับค่านิยมขั้นพื้นฐานนี้ ดังนั้นรัฐต่าง ๆ ในโลกจึงไม่ต้องการสละอำนาจอธิปไตยนี้ ถึงแม้จะเขียนรัฐธรรมนูญโลกขึ้นมาก็จะไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมา เพราะรัฐธรรมนูญไม่สามารถสร้างความไว้วางใจระหว่างรัฐต่าง ๆ ได้ เป็นเพียงผลผลิตของความไว้วางใจเท่านั้น และมีผู้เสนอแนะว่ารัฐบาลโลกที่ต้องการนี้อาจจะเกิดขึ้นมาโดยวิวัฒนาการขยายตัวจากข้อตกลงต่าง ๆ ในระดับภูมิภาค ทั้งนี้อาจจะอิงแม่แบบของประชาคมยุโรปนั้นก็ได้ แต่ก็อีกนั่นแหละ จะเกิดเป็นรัฐที่ให้ความร่วมมือกันในระดับโลกได้นั้น รัฐต่าง ๆ ที่มีอุดมการณ์แตกต่างกัน จะต้องเห็นพ้องต้องกันในนิยามของผลประโยชนร่วมกันให้ได้เสียก่อน และจะต้องให้เกิดความรู้สึกขึ้นมาด้วยว่า ความร่วมมือระหว่างประเทศนี้มีความสำคัญยิ่งยวดกว่าความจงรักภักดีของแต่ละชาติ

No comments:

Post a Comment